Friday, June 24, 2011
เต้น บีบอย คืออะไร
เบรกกิ้ง (Breaking) หรือ บี-บอยอิ่ง (b-boying) โดยทั่วไปจะเรียกกันในชื่อ Breakdance (เบรกแดนซ์) เป็นรูปแบบการเต้นที่พัฒนา ในส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมฮิปฮอป ในกลุ่มวัยรุ่นคนดำและละตินอเมริกา ในเซาท์บรองซ์ในระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า บี-บอย มาจากคำว่า เบรกบอย (break boy) ด้วยเหตุผลที่พวกเขาจะเป็นพวกเต้นโดยเฉพาะ โดยจะเต้นทั้งในแนวเพลงฮิปฮอป, ฟังค์ และ แนวเพลงอื่น ๆ ด้วยที่มักเป็นดนตรีรีมิกซ์ ที่คั่นระหว่างเพลงพัก
4 องค์ประกอบเบื้องต้นมาจากรากฐานในการเต้น เบรกกิ้ง (Breaking) องค์ประกอบแรกคือ ท๊อปร็อก (TopRock) คำศัพท์ที่ว่านี้จะหมายถึง เป็นการเต้นที่ มีรูปแบบเป็นลักษณะยืนเต้นซึ่งแปลตรงตัวเลยตามคำคือ Top แปลว่าด้านบน Rock คือการเขย่าหรือโยก นั่นเอง องค์ประกอบที่ 2 ดาวน์ร็อก (Downrock) แปลตรงตัวอีกเช่นกัน คือ Down แปลว่า ด้านล่าง Rock แปลว่าเขย่าหรือโยก แปลรวมกันคือ การเต้นแบบด้านล่าง ซึ่งจะเรียกกันอีกอย่างว่า ฟุตเวิร์ก (Footwork) เป็นการเต้นลงบนพื้น องค์ประกอบที่ 3 คือ ฟรีซ (Freeze) เป็นท่าจบ โดยจะ จะหยุดโพสท่าต่างๆ เมื่อต้องการที่จะทำการจบการเต้น หรือ ต้องการหยุดตามจังหวะเพลง อาจจะเป็นท่าโพสท่าแบบธรรมดา หรือ เป็นท่าที่ผาดโผนก็ได้ เช่น โพสแบบกลับหัว องค์ประกอบที่ 4 คือ พาวเวอร์มูฟ (Powermove) เป็นท่าที่ใช้พลังของ ร่างกายและแรงเหวี่ยง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการเล่นท่าที่ผาดโผนโดยเป็นส่วนของในการเคลื่อนไหว ในการทำท่าหมุนบนพื้นหรือบนอากาศ
คำว่า เบรกแดนซ์ซิ่ง (breakdancing) จะยังไม่เป็นที่ยอมรับในวัฒนธรรมฮิปฮอป เพราะเป็นคำที่แต่งขึ้นมาโดยสื่อมวลชนเพื่ออธิบาย การเบรกกิง หรือ บี-บอย บนถนน ผู้บุกเบิกรูปแบบศิลปะส่วนใหญ่และผู้ฝึกที่โด่งดัง เรียกท่าเต้นดังกล่าว ว่า บี-บอยอิง (b-boying)
จาก wiki ครับ
วิธีการฝึกเต้น B-Boy แบบง่ายๆๆ
ท่านี้เป็นท่าแรกที่คุณควรจะทำก่อนทำสิ่งต่างๆเนื่องจากเป็น
basic ที่จำเป็นอย่างยิ่ง Toprock คือ step ที่ b-boy ทำ
ก่อนที่จะเริ่ม ทำ Footwork หรือ Power Moves ต่างๆ
ความจริงท่านี้คุณไม่จำเป็นต้องรู้อะไรเลย เพราะว่ามันจะออก
มาจากอารมณ์ของคุณเองโดยที่ใครก็กำหนดไม่ได้ เหมือนกับ
ว่าคุณ ฟัง hip-hop แล้วคุณก็โยกไปโย่ไปไรประมาณนี้ แต่
เราก็มีแนวทางที่ b-boy ส่วนใหญ่ ใช้ เล่น Toprock โดยมี
step ดังนี้
1) ก้าวเท้าขวาเฉียงไปด้านซ้าย
2) ก้าวขวากลับมายืนที่เดิมคุณสามารถกระโดดก็ได้
3) ก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปทางขวา
4) ก้าวกลับมาที่เดิม อาจกระโดดก็ได้
นอกจากนี้ยังมีการเดินเป็นวงกลมและสามารถรวม step
ข้างต้นลงไปก็ได้ซึ่งขึ้นอยู่กับเรา และนอกเหนือจากนี้คุณยัง
สามารถดูจากวีดีโอเบรคฯและสามารถนำสไตล์ของผู้อื่นมาดัด
แปลงก็ได้ แต่อย่างไรก็ดีเราไม่ควรลอกสไตล์ใครมาเลย
เพราะมันจะเป็นการหมิ่นอย่างมาก ซึ่งแต่ล่ะคนจะมีสไตล์
การเต้น Toprock ต่างกันไปตามอารมณ์ ของแต่ล่ะคน
หรืออาจมาจากศิลปการต่อสู้ ,การเต้นแบบอื่น ,และการ
ผสมผสานของสิ่งต่างๆเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ซึ่งจะเป็น
สไตล์ที่ออกมาจาข้างในของแต่ล่ะบุคคลซึ่งแน่นอนมันจะ
ต้องต่างกันมาก
Tip ; ท่านี้เป็นท่า freestyle เทคนิคคือเอกลักษณ์ของแต่ล่ะคนครับ
การหมุน
ภาพการหมุนแบบต่างๆ
( หมุนหลัง )
เป็นท่าที่ง่ายที่สุดในการหมุน ได้รับความนิยมมากในสมัยก่อน
สามารถใช้ต่อท่า จาก Windmill เพื่อความสวยงาม
เริ่มจากการ นอนหงายลงบนพื้น ไม่ให้ศีรษะโดนพื้น จากนั้น
ให้ใช้ขาขวา เตะกวาดในลักษณะตามเข็มนาฬิกา เป็นวงกลม
แล้วเตะขาซ้ายกวาดตามมาเล็กน้อย จากนั้นให้งอเข่าทั้งสองข้าง
ยกก้นให้ลอยจากพื้นแล้วใช้ สะบัก หรือแผ่นหลังด้านบน หมุน
ขณะหมุนเก็บคองอเข่า เพื่อให้ได้รอบมากขึ้น
ในช่วงแรกๆของท่านี้สำหรับบางคนจะเสียสมดุลบนหลัง
ของตนวิธีการคือให้หลังจากเตะกวาดแล้วให้เก็บคองอเข่า
ให้เร็วที่สุดเพื่อให้ร่างกายหมุนเหวี่ยงไปตามแรง
Tip พยายามทำให้เหลือพี้นที่ที่ใช้หมุนให้น้อยที่สุดเพื่อเพิ่มรอบหรือ
ให้ชูขาทั้งสองขึ้นช้าๆขณะหมุนเพื่อให้รอบมากขึ้น
เป็นท่าที่ที่นิยมกันมากในการฝึกซึ่งเป็นท่ายากท่าหนึ่งและ
ท่านี้เป้นท่าที่ผมค่อนข้างถนัดมาก และก็ชอบเป็นการส่วนตัว
ลักษระของท่านี้จะเป็นการหมุนตัวอยู่บนแขนที่กำลังหกสูง
ข้างเดียว เป็นการง่ายถ้าคุณสามารถทำหกสูงเดินเป็นวงกลมได้
เพราะฉนั้นพื้นฐานของท่านี้คือหกสูง คุณควรฝึกทรงตัวบนหกสูง
ให้ดีก่อน
แบบที่ 1
(เราจะหมุนบนมือซ้าย)
เริ่มโดยการยืนตรงแล้วนำขาขวามาไขว้ไว้บนขาซ้ายจากนั้นให้ตีล้อเกวียน
ไปทางซ้ายแต่ไม่ต้องให้ตีล้อเกวียนไปอีกข้างหนึ่งแต่ตีล้อเกวียนให้ขาลอยขึ้น
ไปทำหกสูงได้ เท่านั้นพอ เมื่อขึ้นไปหกสูงได้แล้ว ให้เอนน้ำหนักทั้งหมดของ
คุณไปที่มือซ้าย (ขณะเดียวกันนี้ขาทั้งสองของคุณที่ไขว้กันจะหลุดออกจากกัน)
จากนั้นให้ตีศอกขวาไปด้านหลัง ให้ตัวหมุนอยู่บนมือซ้าย
แบบที่ 2
(หมุนบนมือซ้ายเช่นกัน)
เริ่มโดยการยืนแยกขาทั้งสองประมาณ 30 องศา กางแขนออก จากนั้นให้
วางมือขวาบนพื้นด้านหน้าเท้าซ้ายจากนั้นให้เตะขาซ้ายไปด้านหลัง แรงพอ
ที่จะทำให้เท้าขวาลอยขึ้นจากพื้น เมื่อเท้าทั้งสองของคุณลอยขึ้นจากพื้นแล้ว
ลำตัวของคุณจะเหวี่ยงเป็นวงกลมในแนวดิ่ง ให้คุณวางมือซ้ายของคุณ
ลงบนพื้น ใกล้กับมือขวาจากนั้นให้ถีบขาขวาไปด้านหลัง (ถีบขึ้นไปตรง)
แล้วปล่อยมือขวา (ขณะนี้น้ำหนักทั้งหมดของคุณจะอยู่บนแขนซ้าย)
ร่างกายของคุณจะหมุนอยู่บนมือซ้าย พยายามเกร็งแขน ซ้ายไว้ และทรงตัว
1990 แบบอื่น
2000 ; คือท่า 1990 แต่ใช้มือขวามาวางบนมือซ้ายตอนหมุนท่านี้จะค่อนข้างทรงตัวดี
Reverse 1990 ; คือ จากที่คุณหมุนซ้ายก็เปลี่ยนเป็นทือขวาแทนแต่ลำตัวของคุณจะหมุน
ในด้านเดิม ท่านี้จะหมุนค่อนข้างยาก
Elbow 90 ; มันคือ 1990 แต่ว่า ใช้ศอกแทนมือของคุณ
วิธีเพิ่มรอบ
แบบงอเข่า แล้วยืดขา
หลักของมันจะเหมือนกับท่า Headspin แต่ใช้มือแทน คือเหมือนกันตรงที่
เมื่อคุณเตะขาขึ้นไปแล้วให้งอเข่าแบบนั่งชันเข่าข้างเดียว ทรงตัวให้ได้ ซัก
2-3 รอบแล้วจึงยืดขาทั้งสอง ขึ้นเพื่อเพิ่มรอบเป็น 5-6 รอบ
แบบถีบจักรยาน
ก็แบบที่คุณ ถีบจักรยาเลยล่ะถ้าจะตกก็ถีบขึ้นไปอีก
แบบรวบขารวดเดียว
แบบนี้จะยากที่สุดเพราะมันจะเหวี่ยงแรงมากทำได้โดยเมื่อคุณแตะ 1990
ขึ้นไปได้แล้วให้คุณรวบขาทั้งสองมาชิดกัน หรือมาไขว้กันจะทำให้คุณ
ได้รอบมาก
ข้อควรระวัง ; คุณควรหกสูงให้ดีก่อนทำท่านี้มิฉนั้นคุณอาจได้รับบาดเจ็บบริเวณ
ศีรษะ แขน เข่า เท้า ฯลฯ ถ้ารู้สึกล้าที่ช่วงต้นแขนให้นอนหลับพักผ่อน
Tip ; หกสูงดีๆเชื่อผม ถ้ามือซ้ายมือเดียวได้ก็จะดีมาก
ท่านี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากท่า 1990's ซึ่งเป็นที่ใช้การทรงตัวมากแต่ถ้าเป็น 2000's
จะทรงตัวได้ง่ายกว่าแต่ในขณะเดียวกันมันก็อาจจะหนืดกว่า 1990's เล็กน้อย
ลักษณะของท่า 2000's คือเหมือน 1990's ทุกอย่างเว้นแต่ว่ามือขวาวางทับไว้
บนมือซ้ายเพื่อเพิ่มการทรงตัวให้มากกว่าเดิมทำให้คุณไม่ต้องเอียงน้ำหนักไปทางซ้าย
มากนัก
การเพิ่มความเร็วและรอบ ;
เหมือนกับ 1990's ทุกอย่างแต่ส่วนใหญ่แบบที่มี
ประสิทธิภาพคือการรวบขาทั้งสองเพื่อที่จะเกลียงตัว
คำแนะนำ ; คุณอาจหาผ้าหรือบางอย่างมาพันฝ่ามือก็ได้เพื่อความไม่ฝืดในการหมุน
คุณจำเป็นจะต้องมีคอที่แข็งแรงสำหรับท่านี้เนื่องจากคุณจะต้องใช้
คอของคุณรับน้ำหนักตัวของคุณทั้งหมด ซึ่งถ้าคอของคุณไม่แข็ง
แรง อาจทำให้คอคุณหักได้ ท่านี้ถือเป็นท่าที่อันตรายพอสมควร
การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อคอของคุณมีดังนี้
โดยคุณจะต้องทำหกสามเส้า โดยการเอาหัวตั้งกับพื้นแล้วใช้
มือทั้งสองประคองไว้ด้านหน้ายกขาทั้งสองขึ้นจากพื้น
(ในครั้งแรกคุณอาจจะเอาเข่าทั้งสองมาวางพักไว้บนศอกก่อน
ก็ได้) ทำลักษณะนี้ นานประมาณ 15-30 วินาที ต่อ 1 ครั้ง
วัน ล่ะ 3 ทำลักษณะนี้ไปซักเดือนนึง เมื่อทรงตัวได้ ก็ ลอง
ขยับขาทั้งสองข้างดู อ้าบ้างหับบ้างเหวี่ยงซ้ายบ้างขวาบ้าง
แต่อย่าให้ศีรษะขยับ และอย่าปล่อยมือ ก่อนที่คุณจะเริ่มการหมุน
คุณควรหาจุดที่คุณจะหมุนบนศีรษะของคุณให้ได้ก่อน จุดที่คุณ
สามารถทรงตัวบนศีรษะของคุณได้แบบแน่นอนแบบไม่โซเซไป
ไหน เมื่อคุณหาจุดทรงตัวได้แล้วก็ให้กางขาของคุณทั้งสองออก
ให้ขาทั้งสองของคุณกางไว้ จากนั้นให้เหวี่ยง ขาขวามาด้านหน้า
ขาซ้ายเหวี่ยงไปด้านหลัง แล้วจากนั้นให้เหวี่ยงขาขวาไปด้านขวา
(ด้านขวาขางคุณตอนกำลังกลับหัว) ส่วนขาซ้ายก็เหวี่ยงตามขาขวา
มา จากนั้นลำตัวของคุณจะบิด ให้คุณปล่อยมือทั้งสองออกจากพื้น
(ขาทั้งสองของคุณต้องกางตลอดเวลา) แล้ว ให้เหวี่ยงแขนทั้งสอง
มาจับพื้นอีกครั้ง (หัวของคุณจะหมุนเมื่อคุณปล่อยมือและเมื่อกลับ
มาใช้มือวางที่พื้นอีกครั้งขาของคุณจะเหวี่ยงแต่หัวคุณจะไม่หมุน)
ขาของคุณจะเหวี่ยงไปเหมือนท่าเริ่ม แล้วให้คุณทำลักษณะเดิมอีก
จนกว่าคุณจะรู้สึกว่าทรงตัวอยู่บนหัวได้ โดยไม่ใช้มือ เมื่อแรง
เหวี่ยงได้ระดับให้คุณปล่อยมือ แล้วกางแขนออกเพื่อคุมการทรงตัว
ส่วนขาอยู่ ในลักษณะใดก็ได้ที่คุณสามารถ ทรงตัวอยู่ได้ ถ้าแรงเหวี่ยง
หมดคุณสามารถ ปั่นต่อได้ตามวิธีข้างต้น
การเพิ่ม speed ขณะปล่อยมือ
โดยการที่กำลังหมุนอยู่ในท่างอเข่าแล้วค่อยๆเหยียดขาขึ้นไป
ข้อควรระวัง ; ท่านี้อาจทำให้คุณบาดเจ็บบริเวณคอของคุณได้โดยตรง
จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษก่อนทำหรือฝึกท่านี้ทุกครั้งควร
จะวอร์มคอก่อน โดยการหมุนไปทางซ้ายและขวา ด้านล่ะ
10 ครั้ง เงยค้างไว้ 10 วินาที ก้มค้างไว้ 10 วินาที
และถ้าคุณยังหาจุดที่ใช้หมุนไม่ได้ก็จงอย่าหมุน จนกว่าจะหาเจอ
Tip ; เวลาปั่น ให้กางขาไว้และพยายามทำหลังให้ตรง ไม่ให้สะโพกตก
ส่วนเวลาทรงตัวให้ กางแขนทั้งสองเพื่อควบคุมการทรงตัว นะค๊าฟ
จาก http://bboymin.igetweb.com/index.php?mo=3&art=287825
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment