Saturday, November 24, 2012

การ root เครื่อง Galaxy Note II


Android Tips: การ root เครื่อง Galaxy Note II แบบง่ายๆ 
สำหรับการรูธเครื่อง Galaxy Note II ที่ผมนำมาเสนอในครั้งนี้ ผมนำมาจากที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
http://forum.xda-developers.com/showpost.php?p=31801060&postcount=2
เครดิตโดย dr.ketan แห่งเว็บ xda-developers.com ครับผม
......
เริ่มกันเลยดีกว่าครับ...ก่อนที่จะทำการรูธเครื่อง สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็มีดังต่อไปนี้ครับ

 - ติดตั้ง adb driver / Kies บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณให้เรียบร้อย  ลิ้งค์โหลด adb driver: http://d-h.st/a7H  ลิ้งโหลด Kies: http://www.samsung.com/in/support/usefulsoftware/KIES/JSP 
 
 
 - เปิดซอฟท์แวร์ Odin และให้คลิ้กที่ปุ่ม PDA และเลือกไฟล์ cwm6-root-note2 ที่เราเพิ่งดาวน์โหลดมา (เหมือนในรูปตัวอย่าง)
 - ต่อ Galxy Note II เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์, หลังจากนั้น หน้าจอของซอฟท์แวร์ Odin จะขึ้นคำว่า 0:[COM9] เหมือนในรูปตัวอย่าง
 - กดปุ่ม Start ที่ด้านล่างของหน้าจอซอฟท์แวร์ Odin
 - ไปดูที่หน้าแอ็พ ว่ามีแอ็พชื่อ SuperSU ถูกติดตั้งลงมารึยัง...โดยแอ็พที่ว่านี้ จะมีหน้าตาไอคอนเหมือนรูปข้างล่าง, ถ้ามี แสดงว่าเรารูธสำเร็จแล้ว...ถ้ายังไม่มี...ให้ลองไล่ทำตั้งแต่แรกอีกครั้งนะครับ


หลังจากติดตั้ง adb driver / Kies บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว...ให้ทำการรีสตาร์ทเครื่องซักครั้งนะครับ
ดาวน์โหลดซอฟท์แวร์ที่ใช้ในการรูธที่ชื่อว่า Odin 3.04 มาไว้ในเครื่องของคุณ พร้อมกับทำการแตกไฟล์ zip ให้เรียบร้อย (โหลดได้ที่นี่ )
- ดาวน์โหลดไฟล์ CWM recovery & Root เครดิตคุณ chenglu แห่ง xda-developers.com โดยดาวน์โหลดได้ที่นี้  เมื่อโหลดมาแล้ว ไม่ต้องทำการแตกไฟล์นะครับ (ไฟล์จะเป็นนามสกุล .tar)
- หลังจากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อ Galaxy Note II เข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ซักครั้ง...เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเรารู้จัก Galaxy Note II
- reboot Glaxy Note II เพื่อเข้าโหมด Download โดยทำการปิดเครื่องให้เรียบร้อย...แล้วจึงกดปุ่ม Vol Down + Home + Power (ถ้าเข้า Download โหมดได้...คุณจะพบกับหน้าจอพื้นสีดำ และมีตัวหนังสือบอกว่าเป็นโหมด Download)





- หลังจากนั้น ตัวซอฟท์แวร์ Odin จะทำการรูธเครื่องของเรา, ให้รอจนกระทั่ง Note II ถูกรูธและตัวเครื่องรีสตาร์ทแล้วหนึ่งครั้ง

ที่มา http://www.pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=592716&PN=1

root i-mobile i-Style Q2


How to root i-mobile i-Style Q2 (On Linux only) 

** การ root ทำให้หมดประกันกับทาง I-mobile น่ะครับ ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการใช้คำสั่งใน Ubuntu พอสมควร ผมไม่รับรองกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเครื่อง น่ะครับแต่เครื่องผม ทำได้ตามนี้ครับ

สำหรับตอนนี้เท่านั้นนะครับ เพราะยังไม่มีไดรเวอร์ ADB (Android Debugging) บน Windows ทำให้ไม่สามารถใช้ได้ หลัก ๆ เลยคือต้องใช้ ADB ในการจัดการครับ ซึ่งเครื่องที่ยังไม่ root จะไม่สามารถใช้งาน Terminal Emulator ทั้งหลายบนโทรศัพท์ได้ ดังนั้น จึงต้องใช้งานผ่าน Desktop เพียงอย่างเดียวครับ บน Linux นั้นไม่ต้องมีไดรเวอร์ของ ADB เพียงแค่รู้รหัส OEM ก็พอครับ ทีละขั้นตอนเลยนะครับ

1. ต้องมี Linux ก่อน จะเป็นดิสโทรอะไรก็ได้ตามสะดวก แนะนำ Ubuntu ครับ ติดตั้งง่าย แนะนำว่าติดตั้งจริง ๆ ดีที่สุดครับ หรือถ้าติดตั้บบน Virtual Machine ทั้งหลายก็ต้องตั้งค่าสาย USB ให้ดี ใครถนัดวิธีไหนก็ตามสะดวกครับ (ไม่แนะนำ WUBI นะครับ ปัญหาเยอะ)

2. ติดตั้ง JAVA จะเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ถ้าเอาง่าย ๆ ใน Repository จะมี OpenJDK Runtime อยู่ ใชัตัวนี้ได้เลยครับ ถ้าเป็น Ubuntu ก็เปิด Ubuntu Software Centre หา Java ในนั้น หรือ Distro อื่ นๆ ก็ตามวิธีครับ แต่มี OpenJDK เหมือนกันแน่นอน

**สำหรับคนที่ติดตั้ง Linux แบบ 64bit ต้องติดตั้ง ia32-libs ด้วยนะครับ**

3. เมื่อติดตั้ง JAVA เรียบร้อยแล้ว ไปดาวน์โหลด Android SDK สำหรับ Linux ที่http://developer.android.com/sdk/index.html โดยเลือกของ Linux ถ้าลงแบบ 64 bit ก็ไม่ต้องสนใจครับ ใช้ตัว i386 นั่นแหละ ดาวน์โหลดเสร็จแล้วแตกไฟล์ไว้ที่ Home ก็ได้ครับ เวลาใช้งานผ่าน Terminal จะได้ง่าย

4. เปิด Terminal ขึ้นมา (อาจชื่อ GNOME Terminal ตัวไหนก็ได้) มันจะพร้อมอยู่ที่ HOME folder เป็นเรื่องปกติ ก็พิพม์ cd android-sdk-linux เมื่อเข้าไปในนั้นแล้วก็สั่งคำสั่งนี้ครับ  tools/android update sdk --no-ui  ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดมันจะค่อย ๆ โหลดทุกอย่างมาครับ ทุกอย่างตามความเร็วเน็ต

5. เมื่อดาวน์โหลดจนเสร็จเรียบร้อย ลองกลับไปดูที่โฟลเดอร์ android-sdk-linux/platform-tools ครับ ในนั้นจะมีไฟล์ชื่อ adb แสดงว่าเรียบร้อยแล้ว

6. ที่โทรศัพท์ ไปที่ Settings > Development Options  ดูที่ USB Debugging ถ้ายังไม่ได้ติ๊กก็ติ๊กด้วยครับ

7. เชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับคอมพิวเตอร์ เปิด Terminal แล้วพิมพ์ lsusb กด Enter จะมีรายการ USB ต่าง ๆ ขึ้นมา ให้หาบรรทัดที่เขียนว่า High Tech Computer ครับ ในบรรทัดนั้นก่อนหน้าชื่อที่บอกไปจะมีเลข xxxx:xxxx อยู่ 4ตัวหน้าคือรหัส OEM ของเครื่อง และ 4 ตัวหลังคือรหัสรุ่นครับ ในที่นี้เราจะ root เจ้า Q2 ถ้าเปิด USB Debugging แล้วเลขที่ได้ไม่น่าจะต่างกัน จะต้องเป็นเลข 0bb4:0c03 ครับ

8. จาก Terminal พิมพ์ sudo gedit /etc/udev/rules.d/50-android.rules กด Enter จะขึ้นหน้าต่าง text editor ขึ้นมา หรือจะใช้ text editor ตัวอื่นก็ได้ตามถนัด พิมพ์ตามนี้ครับ SUBSYSTEMS==”usb”, ATTRS{idVendor}==”0bb4″, ATTRS{idProduct}==”0c03″, MODE=”0666″ จากนั้นเซฟไฟล์ได้เลย (ซึ่งการเพิ่มแบบนี้จะเพิ่มได้เรื่อย ๆ หากคุณมี Android เครื่องอื่นก็สามารถสร้างไฟล์ 51,52,53 ต่อไปได้เรื่อย ๆ แล้วเปลี่ยนเลขให้ตรงกับรุ่นครับ)

9. เรียบร้อยแล้วก็กลับมาที่ Terminal พิมพ์ cd android-sdk-linux/platform-tools สั่ง ./adb devices จะต้องขึ้นเลขชุดนึงขึ้นมา และต่อท้ายด้วย device ประมาณนี้

0123456789ABCDEF    device

แต่ถ้าขึ้นเป็น ????????????????    no permissions ให้ทำดังนี้ครับ ใน Terminal ตรงพาร์ทนั้นครับไม่ต้องเปลี่ยน พิมพ์

sudo su
./adb kill-server
./adb start-server

จากนั้นถอดสาย USB ออกจากโทรศัพท์ เสียบใหม่อีกครั้ง แล้วสั่ง ./adb devices จะเห็นเลขเป็นชุด ๆ อย่างข้างบนครับ

................

เมื่อสามารถใช้งาน ADB ได้แล้ว ต่อไปคือการ root ครับ สำคัญที่ไฟล์นี้ โหลดเลยครับ root mt6575.rar

แตกไฟล์ทั้งหมดใส่ในโฟลเดอร์ platform-tools ครับ เพราะเราจะ ADB จากในนั้น เรียบร้อยแล้วทำตามนี้ครับ (หรือจะเปิดไฟล์ .bat แล้วทำตามวิธีในนั้นก็ได้ ผมก็ทำตามในนั้น แต่เอามาเรียบเรียงให้ง่าย ๆ ตรงนี้แล้วกันนะครับ)
**ปิดเครื่อง ถอดแบตออก ใส่ใหม่ กด Vol Down + Power พร้อมกัน เข้า Factory Test Mode แล้วค่อยเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ครับ ไม่งั้นจะเจอ Permission Denied ครับ**

Step 1
./adb shell mv /data/local/tmp /data/local/tmp.bak
./adb shell ln -s /data /data/local/tmp
./adb reboot


โทรศัพท์จะรีสตาร์ทครับ แต่ถ้าดับก็ไม่ต้องตกใจ ผมก็ดับครับ ช่างมัน เปิดเองเลย เมื่อเปิดแล้วก็ขั้นตอนต่อไปครับ (บางครั้งจะเปิดไม่ติดต้องถอดแบตรออกแล้วเปิดใหม่น่ะครับ)

Step2
./adb shell rm /data/local.prop > nul
./adb shell "echo \"ro.kernel.qemu=1\" > /data/local.prop"
./adb reboot



Step3
./adb shell id

ตรงนี้ถ้าขึ้นประมาณ "the id is 0 / root" แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ ถ้าไม่ใช่ทำใหม่ตั้งแต่ต้นเลยครับ

ในกรณีสำเร็จนะครับ ทำต่อไปดังนี้

./adb remount
./adb push su /system/bin/su
./adb shell chown 0.0 /system/bin/su
./adb shell chmod 06755 /system/bin/su
./adb push busybox /system/bin/busybox
./adb shell chown 0.0 /system/bin/busybox
./adb shell chmod 0755 /system/bin/busybox
./adb push Superuser.apk /system/app/Superuser.apk
./adb shell chown 0.0 /system/app/Superuser.apk
./adb shell chmod 0644 /system/app/Superuser.apk
./adb push RootExplorer.apk /system/app/RootExplorer.apk
./adb shell chown 0.0 /system/app/RootExplorer.apk
./adb shell chmod 0644 /system/app/RootExplorer.apk

./adb shell rm /data/local.prop
./adb shell rm /data/local/tmp
./adb shell mv /data/local/tmp.bak /data/local/tmp
./adb reboot


เปิดเครื่องอีกครั้ง จะเห็นไอคอน Super User และสามารถให้ Permission กับแอพที่ต้องการสิทธิ์ root เช่น Titanium Backup ได้ครับ ลองดู

unroot 

"unroot ไปลบ File 
/system/bin/su
/system/app/superuser
/system/app/rootexplorer 
โดยใช้ rootexplorer ลบนะครับ" 
ที่มา http://porpramarn.blogspot.com/2012/08/ubuntu-root-i-mobile-i-style-q2.html

การ root i-style q3

วิธีการ Root 
***วิธีทำนี้ ทำตามขั้นตอนของ Windows 7 หากเป็น Windows XP ลองปรับเอาเอง ผมจำไม่ได้ครับว่า XP ต้องเข้าตรงไหนยังไง ลืมไปแล้ว!!! 
** ขั้นตอน 1-13 เป้นแค่ขั้นตอนการเตรียมตัวเท่านั้น การ root จริงๆจะเริ่มที่ขั้นตอนที่ 14 ครับ 

1. Downlaod - http://www.mediafire.com/?4uw80qoidp9gj7z - แตกไฟล์ไว้ที่ไหนก็ได้ พักไว้ก่อน 

2. ที่มือถือ เข้า Setting > Developer > ติ๊กถูกที่ USB Debugging 

3. เชื่อมต่อ Q3 กับคอมพิวเตอร์ เข้าไปที่ Device Manager มันจะขึ้น I-Mobile I-Style Q3 ที่มี ! สีเหลือง 

4. ดับเบิ่ลคลิกเพื่อเปิด Properties แถบบนเลือก Details ตรง Property เลือก Hardware Ids 

5. ดูตามรูป ให้ดูตรง PID_ ว่าเราเป็นเลขอะไร (มันจะมี 0C02 , 0C03 ) 
 
** ถ้าเป็นอื่นๆ บน Q3 ให้เลื่ือนแถบ Notification ลงมา กดที่ USB computer connection แล้วติ๊กที่ Media Device มันน่าจะทำให้เป็น 0C02 

6. ไปตรงไฟล์ที่เราโหลดมาในข้อ 1. ในโพเดอร์ Drivers ให้ทำการ แตกไฟล์ไดร์เวอร์ที่ตรงกับของเครื่องเราออกมา (หรือจะทั้งหมดก็แล้วแต่) 

7. จากนั้นให้กลับไปหน้า General กดปุ่ม Update Drivers เลือก Browse My Computer... แล้วกด Browse ไปที่โพเดอร์ที่เราแตก Drivers ไว้ 

8. Windows 7 มันจะแจ้งเตือนว่า Drivers แปลกปลอม ไม่ต้องห่วงฮะกด Install ต่อได้เลย ถ้าคุณยังมุ่งมั่น (หรือจะหยุดก็แล้วแต่) 

9. หากได้แล้ว จะเห็นไดร์เวอร์หัวข้อ ADB Interface ขึ้นว่า HTC Dream Com... ขึ่้นมา เป็นอันโอเคละ ^^ 

10. ลองทดสอบด้วยการเปิดไฟล์ Step-1-Check Drivers ขึ้นมา ถ้าข้างล่างคำว่า List of Devices Detect มี ID เครื่องเราขึ้นมา เป็นอันว่าคุณได้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว (หากในข้อ 9 เห็น ไดร์เวอร์แล้ว แต่ข้อนี้ไม่เจอไดร์ ให้ลองเอาสายไปเสียบ USB หลังเครื่องครับ) 

11. ปิดมือถือ แล้วเปิดใหม่โดยการกด ปุ่มเพิ่มเสียง+ลดเสียง+พาวเวอร์ [color=#FF0000]ทั้งหมด 3 ปุ่มพร้อมกัน[/color] 

12. มันจะถามว่า จะเข้า mode ไหน ให้กด ปุ่มลดเสียง เพื่อเข้า Factory Mode 

13. ตอนนี้คอมเราจะไม่เห็นมือถือเราอีกแล้ว!! เนื่องจากเจ้านี่ได้เปลี่ยน PID ตัวเองไปเป็นออีกตัวนึง ซึ่งก็คือ PID_0005 ให้เราทำตามข้อ 7-10 อีกครั้ง (ทำข้อ 10 เพื่อทดสอบอีกครั้งว่า adb สามารถใช้ได้หรือไม่) 
** ตรงนี้หากใครเจอ PID เลขอื่นๆ รบกวนแจ้งมาทางผม tana.sara@gmail.com ผมลอง 2 เครื่อง เจอแต่ 0005 ครับ 

14. ทีนี้กดเปิดไฟล์ Step-3-Root.bat ได้เลย (ต้องทำในหน้า Factory Mode นะครับ) 

15. พอมันดำเนินการไปซักพัก มันจะหยุด ขึ้นว่า [color=#FF0000]Rebooting (1/3) - Continue...[/color] 
ให้รอจนเครื่องเราบูทขึ้นมาใหม่ (มันจะบูทเข้าandroid ปกติ ไม่เป็นไร) แต่ถ้าหากใครไม่ยอมบูทขึ้นมาเอง ให้กดเปิดเครื่องเองได้เลยครับ 

16. หลังจากเครื่องบูทขึ้นมาแล้ว(ลองแอบดู Device Manager ด้วยว่าเห็น Q3 ของเราอยู่รึป่าวก็ดี) ให้กด enter ทีนึง มันจะทำงานต่อ จนขึ้น [color=#FF0000]Rebooting (2/3) - Continue...[/color] 

17. รอเครื่องบูทขึ้นมาอีกรอบ กด enter ถ้าตรงนี้ขึ้นประมาณว่า [color=#FF0000]uid=0 (root) [/color]ให้กด Enter ต่อได้เลย ถ้าไม่ใช่ แปลว่าอาจจะเกิดข้อผิดพลาด ลองไล่ดูว่า ตรงไหนมัน Error หรือขึ้น Failed รึป่าว ใน Step-3-Root นี้ 

18. รอมันทำจนเสร็จ จนมันขึ้น [color=#FF0000]Rebooting (3/3) - You should now be Rooted[/color] ก็กระโดดโลดเต้นได้เลย พอเครื่องเปิดขึ้นมาใหม่ จะมีทั้ง SuperSU และ RootExplorer เรียบร้อยแล้ว ขอให้สนุกกับการปลดล็อคชีวิตนะครับ ^^ 

วิธี unroot 
ใช้ RootExplorer เข้าไปลบ 
/system/bin/su 
/system/app/superuser 
/system/app/rootexplorer

ที่มา http://www.pdamobiz.com/forum/forum_posts.asp?TID=588360&PN=1

Saturday, September 29, 2012

วิธี Root NEXUS 7


จากเวป PDA mobiz ครับผมอ่านเจอแล้วมีประโยชน์มากจึงขอมาเผยแพร่
Android Tips: วิธี Root NEXUS 7 แบบง่ายๆ ใครๆก็ทำได้
สวัสดีครับ วันนี้ผมมาแนะนำการรูท NEXUS 7 แบบง่ายๆครับ อาจจะมาช้าไปหน่อย แต่ก็คงพอมีประโยชน์บ้างนะครับ พอดีผมพึ่งได้เครื่องมาทดลองใช้ไม่กี่วันมานี้ครับ ซน ก็เลยจัดเรื่อง Root ซะเลยครับ ลองมาดูกันครับ

*** ก่อนลงมือทำ ให้แบคอัพข้อมูลในเครื่องเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ด้วยนะครับ ข้อมูลทุกอย่างจะหายหมด เหมือนตอนซื้อเครื่องมาครั้งแรกเลย ***
1. ไม่รอช้าครับ ก่อนอื่นไปโหลด Nexus7 Toolkit ที่จะใช้ ตามลิงค์นี้เลยครับ http://forum.xda-developers.com/showthread.php?t=1809195 เมื่อโหลดมาแล้วก็จัดการ Install ในคอมให้เสร็จเรียบร้อยนะครับ
2. จัดการลง Driver ให้คอมของเรารู้จักกับเครื่อง Nexus7 ก่อนครับ ซึ่งจะลงจาก Toolkit ที่โหลดมาก็ได้ หรือ โหลด Driver จาก ที่นี่ครับ 32-bit Windows 7/Vista/XP หรือ 64-bit Windows 7/Vista ซึ่งผมเลือกแบบนี้ครับ โหลดมาแล้ว จัดการลงให้เรียบร้อย แนะนำให้รีบูตคอมหนึ่งรอบหลังจากลง Deiver เสร็จนะครับ
3. ที่เครื่อง Nexus7 ให้ไปที่ Settings> Developer options> On> USB debugging ให้เช็คถูกไว้ครับ แล้วต่อสาย USB เชื่อมต่อกับคอม

4. เมื่อรีบูตกลับมา ก็คลิกไอคอน Nexus7 Toolkit ที่ติดตั้งไว้ตามข้อ1

5. ก็จะเจอหน้าตาโปรแกรมแบบนี้ พิมพ์ no แล้วกด Enter ครับ


 
6. ก็จะเจอหน้าตาแบบนี้ ซึ่ง Tool ตัวนี้ จัดการได้ทุกอย่างของ Nexus7 เลยครับ ทั้ง Unlock และ Re-Lock bootloader ได้หมดครับ เพราะฉนั้น ไม่ต้องกลัวครับ เรารูทแล้ว ทำกลับไปเป็นแบบเดิมๆจากโรงงานได้แน่ครับ สังเกตุว่าต้องขึ้นหมายเลขเครื่องนะครับ ถ้าไม่ขึ้น ต้องไปจัดการเรื่อง Driver ตามข้อ2 อีกทีครับ



7. เป้าหมายของเราตอนนี้คือ Root ซึ่ง Tool ตัวนี้ได้เตรียมขั้นตอนแบบง่ายๆไว้แล้วคือ หัวข้อที่ 8 ครับ เลือก ครั้งเดียว จะได้ทั้ง Unlock bootloader, Root, Rename Recovery Restore Files, Flash Recovery, Install Busybox เพราะฉนั้น เลือก 8 แล้วกด Enter เลยครับ


8. ก็จะขึ้นหน้านี้มาครับ พิมพ์ no แล้วกด Enter ครับ



9. ถึงตอนนี้ รออย่างเดียวครับ ที่เครื่อง Nexus7 เรา จะเข้า Fastboot Mode ครับ โปรแกรมก็จะเริ่มทำงานของมันไปเรื่อยๆครับ เรารออย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไร




10. ถึงขั้นตอนนี้ เครื่อง Nexus7 จะรีบูตกลับมา ค้างอยู่ให้เราเซตค่าแล้วเข้าไปเปิด USB debugging ตามข้อ3 อีกทีนะครับ แล้วโปรแกรมก็จะเริ่มทำงานต่อ



11. หลังจากเสร็จ ก็จะเด้งมาหน้านี้ครับ เป็นอันว่า เสร็จสมอารมณ์หมายของเราแล้วครับ เครื่อง Nexus7 ของเราจะรีบูต

12. หลังจากรีบูตก็จะเจอไอคอน Superuser แล้วครับ

เป็นอันเสร็จครับ ถ้าอยากเก็บรอมเดิมๆไว้ ก็เข้า Recovery แล้วเลือก Backup รอมเก็บไว้ครับ คงจบบทความเพียงเท่านี้ครับ

Saturday, July 28, 2012


วิธีการ Jailbreak iOS 6 Beta 3 บน iPhone 4, iPhone 3GS, iPod Touch 4G ด้วย Redsn0w 0.913dev3 + Download Links

   Jailbreak iOS 6 อัพเดทวิธีการขั้นเทพกับ iTAllNews.com หลังจาก Apple iOS 6 Beta 3 อัพเดทไปได้ไม่กี่ชั่วโมงทาง DEV-Team ทำงานแข่งกับเวลา ได้ทำการปล่อยเครื่องมือในการแขกคุก iOS 6 Beta 3 แทบจะทันทีนั่นคือRedsn0w 0.913dev3 โดยเครื่องมือนี้สามารถเจลเบรคอุปกรณ์ iDevice Chip-A4 อย่าง iPhone 4, iPhone 3GSและ iPod Touch 4G ได้ทั้งหมด : วิธีการ Jailbreak iOS 6 Beta 3 แบบละเอียด STEP-By-STEP

TETHERED JAILBREAK IOS 6 Beta 3
iPhone 4 (CDMA/GSM), iPhone 3GS, iPod Touch 4G

 
     สิ่งที่ต้องมีสำหรับการใช้งานด้วย Redsn0w 0.9.13dev3
 1. Download 
สำหรับ : Jailbreak
iPhone 4 (CDMA/GSM)
iPhone 3GS
iPod Touch 4G

วิธีการ Jailbreak iOS6 Beta3 ด้วย RedSn0w 0.913dev3

 STEP1: ให้เราทำการเปิด Redsn0w 0.913dev3 ขึ้นมาจากนั้น เลือก Extras Button 

 STEP2: ให้ทำการกดไปที่ Select IPSW เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเลือก Firmware iPSW  iOS6 Beta3
 STEP 3: เลือก Firmware iPSW  iOS 6 beta 3 ให้ตรงกับรุ่นของ iDevice ของเรา (เลือกให้ถูกนะครับ) ทั้งiPhone 4, iPhone 3GS, iPod Touch 4G 

 STEP 4: เมื่อเราเลือก iOS firmware เสร็จแล้วให้ทำการกด Back แล้วกด Jailbreak

: : รอให้ทาง Jailbreak iOS 6 Beta 3 ทำงานสักครู่นึงครับ (ไม่นานเกินรอ)
 STEP5: หลังจากนั้นจะมีรายละเอียดขึ้นมา ให้เรากด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอน DFU Mode

 STEP6: ต่อไปให้เข้า DFU Mode ครับกดตามขั้นตอน ถ้ากดไม่ทันกด Back แล้วกลับมากดใหม่ได้ ไม่ต้องรีบร้อน
- กด ปุ่ม Power 3 วินาที 
- กดปุ่ม Power + Home ( พร้อมกัน ) 10 วินาที
- ปล่อยปุ่ม Power แต่ยัง กดปุ่ม Home ค้างไว้อีก 15 วินาที ( ปล่อยปุ่ม Power อย่างเดียว )
เครื่องจะเข้าสู่ DFU Mode สังเกตจากหน้าจอ PC ก็จะขึ้นมว่า Apple Recovery (DFU) Usb Driver  และหน้าจอ iDevice ก็จะดำมืด 

   หลังจาก  RedSn0w 0.9.13dev3 ทำงานของมันเสร็จ ก็นเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการ Tethered Jailbreak iOs 6 Beta 3 บน iPhone 4 (CDMA/GSM), iPhone 3GS, iPod Touch 4G เรียบร้อยแล้วละครับ แต่นี่ก็คงยังต้องอาศัย Booting Tethered (ไม่สามารถรีบูทเครื่อง iDevice ได้ด้วยตัวเอง) เพราะอย่างนั้นหลังกจาก Jailbreak เสร็จแล้วเรายังคงต้องทำการ Booting Tethered อีก 1 ครั้งก่อนการใช้งานครับ 

Just Boot & Booting Tethered
 STEP 7: กลับสู่หน้าจอแรกของ RedSn0w 0.9.13dev3 เลือก Extras > Just Boot และเข้าสู่ DFU Mode อีกครั้ง ก็สามารถใช้งานได้ เรียบร้อยแล้วครับ (ทุกครั้งที่เครื่อง Reboot ก็ให้ทำแบบนี้ แหละครับ ^^)

จาก itallnews.com

เจ้าหญิง - บอย โกสิยพงษ์


เพลง เจ้าหญิง Princess 
ศิลปิน บอย โกสิยพงษ์
อัลบั้ม Rhythm & BOYd
สังกัด Bakery Music
ขับร้อง ธนชัย อุชชิน
INTRO  :  /C G Am F
C                           G           
ในคืนที่ฟ้านี้มีแต่ความมืดของดาว      
Am                                         F           G           
รู้สึกเหน็บหนาว    เมื่อไม่มีใคร   เคียงข้างกาย
C                                 E7
อยากให้ท้องฟ้านี้มีแต่ดาวอันพร่างพราย
Fmaj7                                G7
เติมชีวิตให้มีความหมาย     ด้วยใจใครสักคน
Am9    Am       G7
แล้ว...เธอ     ก็เข้า...มา
Am9   Am            F      G7
เปลี่ยนหัวใจ...ที่เคยอ่อนล้าให้มีหวัง
C9                            Em7                           Fmaj7
* ขอให้ค่ำคืนนี้มีแต่เรา      อยู่เคียงใต้แสงดาว
G7
และมีความรักให้กันและกัน
C9                                 Em7
ให้เธอเป็นดังเจ้าหญิงในใจฉัน
Fmaj7   G7
และจะมีเธอเท่านั้น.........
rap : Tonight when i look into the sky I see the darkness 
I feel cold 'cause there's no body besides me 
Don't you know this sky is full of shining star 
I wish somebody will come 
To make my life for little more meaningful 
Suddenly you came into my life and we were one girl.. 
C                                        Em          
เธอคือนางฟ้าที่เดินเข้ามากลางหัวใจ
Fmaj7                                      G7          
เติมความสดใส    ให้กับชีวิต   ที่มืดมน
C                                          E7
เปลี่ยนแปลงความรักที่มีแต่ความหมองหม่น
Fmaj7                       G7
เปลี่ยนชีวิตที่เคยสับสน    ของคน   ที่ร้าวราน
Am                                     G7
เพราะ......เธอ    ได้เข้า.......มา
Am                F     G7
เปลี่ยนหัวใจที่เคยอ่อนล้าให้มีหวัง.....
(ซ้ำ * )
Dm             A7                             F
ที่มีค่าสูงเกินกว่า      จะหาคำมาอธิบาย
(ซ้ำ * 2  จนจบ)
INSTRU  :  Gm Am7 Bbmaj7 G7 Bdim Abm6 Fmaj7
G7 C9 E7 Fmaj7 G7

Friday, July 20, 2012

P/E ROA ROE P/BV คืออะไร


P/E (Price/Earning per Share) หรืออัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นและกำไรต่อหุ้น ถ้าสมมติให้กำไรของบริษัทคงที่ตลอดหรือไม่มีการเติบโตเลย ค่า P/E จะหมายถึงระยะเวลาที่ใช้ในการคืนทุน เช่น ถ้าเราซื้อหุ้นราคา 10 บาท โดยหุ้นนั้นมีค่า P/E อยู่ที่ 5 เท่า หมายความว่ากำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2 บาท เมื่อเราถือหุ้นนี้ไป 5 ปี กำไรต่อหุ้นจะเท่ากับ 2 x 5 คือ 10 บาท ซึ่งเท่ากับราคาต้นทุนที่เราซื้อนั่นเอง ค่า P/E นี้ยิ่งต่ำยิ่งดีครับ เพราะผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้เร็ว
ROA (Return On Assets) เป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการทำกำไรจากสินทรัพย์ของบริษัท โดยคำนวณจาก Net Income/Total Assets โดยสินทรัพย์สุทธิ (Total Assets) ของบริษัทนั้นประกอบด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นและส่วนของหนี้สิน ค่า ROA นี้ยิ่งสูงยิ่งดี เพราะแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรสูงเมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุน หากค่า ROA ของบริษัทต่ำกว่า 5% นักลงทุนมืออาชีพมักจะไม่ให้ความสนใจกับบริษัทนั้น
นอกจากอัตราส่วนสองตัวที่กล่าวถึงในหนังสือคัมภีร์สุดยอดนักลงทุนแล้ว ลองมาดูอัตราส่วนตัวอื่นที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่านิยมใช้ในการเลือกหุ้นกัน
ROE (Return on Equity) เป็นตัวที่บ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทในการนำเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปทำให้งอกเงยได้ในอัตราผลตอบแทนเท่าไหร่ ซึ่งคำนวณจาก Net Income/Equity ค่า ROE นี้ยิ่งสูงยิ่งดี โดยนักลงทุนมืออาชีพจะมองหาหุ้นที่มีค่า ROE สูงกว่า 12-15% อย่างต่อเนื่องหลายๆปี
หากนำค่า ROA และ ROE มาพิจารณาแล้วจะพบว่าอัตราส่วนทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันคือเป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท จุดแตกต่างกันที่สำคัญของอัตราส่วนทั้งสองจะอยู่ที่หนี้สินของบริษัท เนื่องจาก Assets = Equity + Liabilities ดังนั้นจากสูตรการหาค่า ROA และ ROE จะเห็นว่าถ้าบริษัทไม่มีหนี้สินค่าหรือ Liabilities มีค่าเท่ากับ 0 เราจะคำนวณค่า ROA ได้เท่ากับ ROE แต่หากบริษัทมีหนี้สินเยอะอาจทำให้ค่า ROA ที่ได้มีค่าต่ำในขณะที่ ROE มีค่าเท่าเดิม ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังหากพิจารณาเฉพาะค่า ROE ที่สูงๆโดยไม่พิจารณาถึงหนี้สินของบริษัท
อัตราส่วนอีกตัวที่นิยมนำมาใช้ในการเลือกหุ้นคุณค่าและจะพูดถึงเป็นตัวสุดท้ายในวันนี้ก็คือ
P/BV (Price/Book Value) โดย Book Value คิดมาจาก Equity/Number of Shares โดยทั่วๆไปแล้วค่า P/BV นี้ยิ่งต่ำยิ่งดี ตัวเลขมาตราฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือ 1 เท่า หากสามารถซื้อหุ้นที่มีค่า P/BV น้อยกว่า 1 ได้ก็หมายความว่าเราสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของบริษัท

โรคมือ เท้า ปาก

โรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากเปื่อย Hand foot mouth syndrome
โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มักจะเป็นในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ แต่ก็อาจจะพบในผู้ใหญ่ได้
โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusซึ่งเชื้อโรคในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย polioviruses, coxsackieviruses, echoviruses, and enteroviruses.
สาเหตุ
โรคปากเท้าเปื่อยเกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Coxsackievirus โดยต้องประกอบด้วยผื่นที่ มือ เท้าและที่ปาก เริ่มต้นเป็นที่ปาก เหงือก เพดาน ลิ้น และลามมาที่มือ เท้า บริเวณที่พันผ้าอ้อมเช่นก้น ผื่นจะเป็นตุ่มน้ำใส มีแผลไม่มากอายุที่เริ่มเป็นคือ 2 สัปดาห์จนถึง 3 ปีผื่นจะหายใน 5-7 วัน
อาการ
อาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ
  • ไข้
  • เจ็บคอ
  • มีตุ่มที่คอ ปาก เหงือกลิ้นโดยมากเป็นตุ่มน้ำมากกว่าเป็นแผล
  • ปวดศีรษะ
  • ผื่นเป็นมากที่มือรองลงมาพบที่เท้าที่ก้นก็พอพบได้
  • เบื่ออาหาร
  • เด็กจะหงุดหงิด
ระยะฝักตัว
หมายถึงระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน
การติดต่อ
โรคนี้มักจะติดต่อในสัปดาห์แรก เชื้อนี้ติดต่อจากการสัมผัสเสมหะ น้ำลายของผู้ที่ป่วย หรือน้ำจากผื่นที่มือหรือเท้า และอุจาระ ระยะที่แพร่เชื้อประมาณอาทิตย์แรกของการเจ็บป่วย เชื้อนั้นอาจจะอยู่ในร่างกายได้เป็นสัปดาห์หลังจากอาการดีขึ้้นแล้ว ซึ่งยังสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้แม้ว่าจะหายแล้ว
การวินิจฉัย
โดยการตรวจร่างกายพบผื่นบริเวณดังกล่าว
การรักษา
ไม่มีการรักษาเฉพาะโดยมากรักษาตามอาการ
  • ถ้ามีไข้ให้ยา paracetamol ลดไข้ห้ามให้ aspirin
  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือใช้เกลือ1/2ช้อนต่อน้ำ1แก้วต้องมั่นใจว่าเด็กบ้วนคอได้
  • ดื่มน้ำให้พอ
  • งดอาหารเผ็ด หรืออาหารเป็นกรดเพราะจะทำให้ปวด
โรคนี้หายเองได้ใน 5-7 วัน
โรคแทรกซ้อน
ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirus A16 ซึ่งหายเองใน 1 สัปดาห์ แต่หากเกิดจากเชื้อ enterovirus 71 โรคจะเป็นรุนแรงและเกิดโรคแทรกซ้อน
  • ภาวะขาดน้ำ ต้องกระตุ้นเด็กให้รับน้ำให้เพียงพอ หากขาดน้ำรุนแรงจะต้องได้รับน้ำเกลือ
  • มีการติดเชื้อซ้ำบริเวณที่เป็นแผล
  • อาจจะเกิดชักเนื่องจากไข้สูง ต้องเช็ดตัวเวลามีไข้และรับประทานยาลดไข้
  • อาจจะเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเส
  • สมองอักเสบได้ ผู้ป่วยจะเกิดอาการ อาเจียน ซึม และชัก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหาย
การป้องกัน
โรคมือเท้าปากจะติดต่อจากคนสู่คนโดยการสัมผัส น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย รวมทั้งน้ำจากตุ่ม และอุจาระ การลดความเสี่ยงของการติดต่อทำได้โดย
  • ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับเด็กที่ป่วย
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สวมถุงมือเมื่อจะทำแผลผู้ป่วย
  • หลีกเลี่ยงที่มีคนมาก
  • ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการจับ่อย เช่นลูกบิด โทรศัพท์
  • ไม่แบ่งของเล่นกับเด็กปกติ
ควรพบแพทย์เมื่อไร
  • ไข้สูงรับประทานยาลดไข้แล้วไม่ลง
  • ดื่มน้ำไม่ได้และมีอาการขาดน้ำ ผิวแห้ง ปัสสาวะสีเข็ม
  • เด็กระสับกระส่าย
  • มีอาการชัก
  • แผลไม่หาย

iOS: VirusBarrier

:: iOS: VirusBarrier แอพฯตรวจเช็ค Antivirus, Malware บน iPhone, iPad ตัวแรกในโลก! :: อย่างที่ทราบกันดีว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ของ Apple นั้นมีจุดขายอยู่ที่ตัวเครื่องจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้นจากเหล่าปรสิตออนไลน์ทั้งไวรัสประเภทต่างๆรวมถึงมัลแวร์ขยะมากมายที่มีอยู่เกลื่อนโลกไซเบอร์ ทว่านั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเจ้าตัวร้ายเหล่านี้อยู่ในอุปกรณ์ของคุณเสียหน่อย (อาจจะมีแต่มันมองข้ามไปก็เท่านั้นเอง 555) ว่าแล้วบริษัท Intego ก็เลยขออาสาพัฒนาแอพพลิเคชันตรวจเช็คมัลแวร์และแอนตี้ไวรัสตัวแรกในโลกบนแพลตฟอร์ม iOS ที่มีชื่อว่า VirusBarrier สำหรับผู้ใช้งาน iPhone และ iPad กันเสียเลย! โดยแอพฯ VirusBarrier จะทำหน้าที่ตรวจสอบไฟล์ต่างๆที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเครื่องของคุณไม่ว่าจะเป็นไฟล์จากแฟ้ม MobileMe, Dropbox หรือเอกสารต่างๆที่แนบมากับข้อความอีเมล์เป็นต้น ซึ่งตัว VirusBarrier นั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อมีการเปิดใช้งานเท่านั้น (ไม่ได้รันโปรแกรมอยู่ด้านหลังตลอดเวลาเหมือน Antivirus อื่นๆทั่วไป) โดยคุณสามารถตรวจสอบไฟล์น่าสงสัยต่างๆได้ด้วยการกดที่ลิงค์ค้างไว้แล้วเลือกหัวข้อ Open in VirusBarrier นั่นเอง ทางด้านของ Intego นั้นเผยว่าหัวใจสำคัญของโปรแกรม VirusBarrier นั้นไม่ได้อยู่ที่การกำจัดไวรัสภายในเครื่อง iPhone หรือ iPad แต่อย่างใด ทว่าอยู่ที่การยับยั้งไฟล์อันตรายเหล่านี้ไม่ให้ถูกส่งต่อไปยังอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงมากกว่านั่นเอง (ก็อีพวก Windows ทั้งหลายนั่นแหละ...เป็นห่วงเธอจริงๆนะ) สำหรับแอพพลิเคชัน VirusBarrier (กดลิงค์ไปที่หน้าดาวน์โหลดตรงนี้) มีวางจำหน่ายแล้วใน App Store ด้วยราคาเบาๆเพียง $2.99 (90 บาท) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณสามารถอัพเดตฐานข้อมูลไวรัสและมัลแวร์ใหม่ๆได้เป็นเวลาหนึ่งปี หลังจากนั้นคุณสามารถต่ออายุการใช้งานของ VirusBarrier ได้เพียงปีละ $1.99 (60 บาท) เท่านั้นครับ

การผลิตลำไยนอกฤดู

การผลิตลำไยนอกฤดูคุณภาพอย่างถูกต้อง มีขั้นตอน 4 ขั้นตอนด้วยกัน 
1.การเตรียมต้นและการตัดแต่งกิ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแตกใบและกิ่งที่สมบูรณ์ให้พร้อมที่สำหรับการออกดอก และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีขั้นตอนคือ ตัดกิ่งทรงพุ่มตรงกลาง 2-5 กิ่งเพื่อให้แสงแดดส่องเข้าในทรงพุ่ม ตัดกิ่งด้านในที่ไม่ได้รับแดด ตัดกิ่งใหญ่รอบข้างเพื่อให้แดดส่องถึงด้านใน ตัดกิ่งที่เป็นโรคเพื่อตัดวงจรของโรค ตัดกิ่งที่ซ้อนทับกัน นอกจากนี้สำหรับลำไยต้นอายุน้อยให้ตัดกิ่งเป็นทรงเหลี่ยม คือกำหนดความสูงของทรงพุ่มไม่เกิน 4 เมตร ตัดปลายกิ่งรอบด้านทรงพุ่มทั้งสี่ด้าน เมื่อตัดกิ่งผ่านไป 2 สัปดาห์ ต้นลำไยเริ่มออกใบใหม่ และอีก 6 เดือนจึงจะออกดอก ส่วนการให้ปุ๋ยควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ 10-20 กิโลกรัมต่อต้น ผสมกับปุ๋ยเคมี สูตร 46-0-0, 15-15-15 และ 0-0-60 เป็นต้น 
2.การให้สารโพแทสเซียมคลอเรตอย่างมีประสิทธิภาพ คือเลือกต้นที่มีความสมบูรณ์ หลังแตกใบได้ 25-40 วัน ทำความสะอาดบริเวณทรงพุ่ม กำจัดวัชพืชและวัสดุคลุมดิน ก่อนราดสารอาหารให้ดูดซึมสารโพแทสเซียมคลอเรต จากนั้นใช้โพแทสเซียมคลอเรตที่มีความเข้มข้นไม่ต่ำกว่า 95% และการให้สารนั้นมี 2 แบบ คือ ผสมน้ำราด และแบบหว่าน จากนั้นควรรดน้ำเพื่อให้สารโพแทสเซียมคลอเรตละลายเร็วที่สุด 
3.การดูแลรักษาเพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ คือการให้น้ำ ต้องดูขนาดของทรงพุ่ม อย่างทรงพุ่ม 3 เมตร ควรให้น้ำ 26 ลิตรต่อวัน การให้ปุ๋ยเคมีขึ้นอยู่กับปริมาณของผลผลิต การปรับปรุงคุณภาพผล หากผลดกเกิน 80 ช่อต่อต้น ให้ตัดเหลือ 50 ช่อต่อต้น เพื่อรักษาคุณภาพไว้ การกำจัดโรคแมลงในช่วงติดผลคือ ต้องมั่นสำรวจตลอดเวลา โดยเฉพาะเพลี้ยไฟ และไรสีขาว หากระบาดหนักให้พ่นสารฆ่าแมลงเมทโธเอทในระยะดอกยังไม่บาน 
4.การเก็บเกี่ยว การคัดเกรด และการบรรจุ การเก็บเกี่ยวต้องระวังและใช้กรรไกรที่คม สะอาดตัดช่อจากต้น ส่วนภาชนะที่ใส่ควรรองพื้นด้วยกระดาษหรือฟองน้ำเพื่อกันผลช้ำ ก่อนจะบรรจุควรแยกช่อด้วย ระหว่างช่อที่สมบูรณ์กับผลที่ช้ำ ส่วนการคัดเกรดควรแบ่งขนาดตามน้ำหนักหรือความสมบูรณ์ของผล ขณะที่การบรรจุใส่ภาชนะเพื่อนำไปจำหน่ายนั้น ควรเป็นตะกร้าพลาสติกขนาด 11-11.5 กิโลกรัม ถ้าเป็นกล่องกระดาษใช้ขนาด 10 กิโลกรัม หรือ 15 กิโลกรัม เป็นต้น